จิมิดำเพราะผ่านผู้ชายมาเยอะ?
นับเป็นความเชื่อผิดๆ ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานว่า “อวัยวะเพศหญิง” หรือ “จิมิ” ที่บริสุทธิ์ผุดผ่องจะต้องมีสีชมพูสดใสเหมือนกลีบดอกไม้แรกแย้ม แต่ในความเป็นจริงแล้วสีของจิมินั้นจะเข้มหรืออ่อนก็ได้ แล้วมันก็ไม่ได้เกี่ยวพันอะไรกับประสบการณ์ทางเพศด้วย! ต้นตอของความเชื่อผิดๆ นี้เกิดขึ้นจาก “ความไม่รู้” เพราะเราไม่รู้ว่าสีของจิมิเกิดจากอะไร เราจึงอนุมานเอาโดยใช้หลักการเดียวกับอวัยวะอื่นๆ ว่าถ้าอวัยวะใดถูกใช้บ่อยๆ มันก็จะด้านและกลายเป็นสีดำคล้ำเหมือนกับข้อศอกหรือหัวเข่า ดังนั้นจิมิที่ดีและบริสุทธิ์จึงควรเป็นสีชมพูเท่านั้น แต่ในปัจจุบันนี้ เราก็ได้ค้นพบแล้วว่าสีของจิมิเกิดจาก “ดีเอ็นเอ” ของแต่ละบุคคลเช่นเดียวกับสีผิวหรือสีตา ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะมีสีใกล้เคียงกับริมฝีปากหรือหัวนม แต่ในบางครั้งก็อาจจะมีสีเข้มไปกว่านั้นได้ จึงไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด แต่น่าเศร้าที่วาทกรรมดังกล่าวถูกนำไปยึดโยงกับแนวคิดชายเป็นใหญ่ว่า ผู้หญิงจะต้องรักนวลสงวนตัวและสะอาดบริสุทธิ์อยู่เสมอ ทำให้หลายคนใช้สิ่งนี้ในการลดทอนคุณค่าของผู้หญิงคนอื่นว่าผ่านผู้ชายมาเยอะ เพียงเพราะเขาเกิดมาพร้อมกับสีอวัยวะเพศที่ไม่ตรงตามบรรทัดฐานของสังคม (ทั้งที่ต่อให้เขาผ่านศึกมาเยอะจริง มันก็เป็นสิทธิ์ของเขา) อีกทั้งสื่อในอุตสากรรมหนังโป๊ยังตอกย้ำค่านิยมจิมิขาวอมชมพูซ้ำๆ ไม่ต่างอะไรจากสื่อสมัยก่อนที่สนับสนุนให้คนคลั่งขาว โดยมองเหยียดคนผิวดำว่าสกปรก ซึ่งค่านิยมเหล่านี้ทำให้หลายคนขาดความมั่นใจจนต้องหันไปพึ่งครีมจิมิขาว ยาเหน็บอกฟูรูฟิตที่วางขายบนอินเทอร์เน็ต ทั้งที่ยาเหล่านี้ไม่มีอย.ด้วยซ้ำ หรือถ้าจะให้ปลอดภัยขึ้นมาหน่อยก็มีบริการยิงเลเซอร์หรือสักจิมิชมพูโดยผู้เชี่ยวชาญ แต่คำถามคือ “เราจำเป็นต้องทำขนาดนั้นเพื่อให้จิมิเราเป็นที่ยอมรับในสังคมหรือไม่” มันจะดีกว่าไหมถ้าหากเราสามารถยอมรับสีจิมิที่หลากหลายได้เช่นเดียวกับสีผิวที่มีความสวยงามในตัวมันเอง แล้วถ้าหากผู้ชายคนไหนจะชื่นชอบจิมิสีใดเป็นพิเศษ หรือผู้หญิงจะอยากไปสักจิมิเป็นสีอื่นเพื่อเรียกความมั่นใจ ก็ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของรสนิยมไป โดยที่เราไม่ต้องไปนั่งตัดสินคนอื่นว่าเขาซิงหรือไม่ซิง มีคุณค่าหรือไม่มีคุณค่า เพียงเพราะสีจิมิของเขาอาจไม่ถูกใจเราเท่านั้นเอง